สินเชื่อ Pre Finance Premium

สินเชื่อ Pre Finance Premium

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรม ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 
(ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว)

วัตถุประสงค์การยื่นกู้

สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกประเภททุกระดับราคาขาย โดยมีวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ ดังนี้ 

  • ค่าก่อสร้างอาคารและพัฒนาสาธารณูปโภคในโครงการ
  • ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างอาคาร และพัฒนาสาธารณูปโภค ในโครงการ
  • ซื้อที่ดินและอาคาร พร้อมพัฒนาสาธารณูปโภคให้แล้วเสร็จ
  • การค้ำประกันที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดทำโครงการ

หมายเหตุ : ค่าที่ดิน หมายถึง ค่าซื้อที่ดิน หรือค่าไถ่ถอนที่ดิน
 

วงเงิน / ระยะเวลากู้

วงเงิน

  • วงเงินกู้รวมไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าที่ดินอาคาร และสาธารณูปโภคตามราคาประเมินของธนาคาร  ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี
  • วงเงินเบิกเกินบัญชี ให้กู้ไม่เกินร้อยละ 20 ของวงเงินกู้รวม แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
  • วงเงินหนังสือค้ำประกัน เพื่อค้ำประกันสาธารณูปโภค  กำหนดระยะเวลาตามข้อกำหนดของหน่วยงานราชการ

หมายเหตุ : กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

อัตราดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม

อัตราดอกเบี้ย

ปี อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 = 3.90% 
ปีที่ 2 = 4.40%
ปีที่ 3 = 4.60% 
ปีที่ 4-5 = MLR 

อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (EIR) =  4.96%

หมายเหตุ :

  • MLR ตามประกาศธนาคาร
  • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
  • อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (Effective Interest Rate : EIR)  
    อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ระบุเป็นเพียงตัวอย่างที่คำนวณตามเงื่อนไขที่ใช้ในฉบับนี้เท่านั้น ซึ่งอาจมีความแตกต่างกัน ตามเงื่อนไขการกู้ยืมของลูกค้าแต่ละราย โดยคำนวณจากสมมติฐานวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 5 ปี ผ่อนชำระตามเงินงวดของผลิตภัณฑ์
  • กรณีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด คิดอัตราดอกเบี้ย MLR

ค่าธรรมเนียม

  • ค่าธรรมเนียม ตามประกาศธนาคาร

คุณสมบัติ / เอกสารที่ใช้สมัคร

คุณสมบัติโครงการที่จะยื่นกู้

  • โครงการต้องมีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการใช้เป็นที่อยู่อาศัย เป็นแหล่งชุมชนมีบริการสาธารณะ
  • โครงการสำหรับพื้นที่ทำเลที่มีศักยภาพ ได้แก่

1. กรุงเทพมหานคร 
2. ปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม
3. EEC มี 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา
4. 18 จังหวัดยุทธศาสตร์ ได้แก่ 

- ภาคกลาง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี
- ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ พิษณุโลก และลำพูน
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี และนครราชสีมา
- ภาคตะวันตก ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี
- ภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และสงขลา

คุณสมบัติผู้กู้

  • นิติบุคคลในตลาดหลักทรัพย์ที่มีผลประกอบการและสร้างรายได้สูงสุดในปี 2567 จำนวน 20 ลำดับแรก 
  • มีประสบการณ์ในดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือ ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มาไม่น้อยกว่า 3 ปี
  • เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างโครงการ
  • มีผลประกอบการและประวัติการเงินที่ดี และมีเงินทุนสำรองส่วนตัวที่สามารถให้ธนาคารตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินสมทบได้
  • ทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 10 ของวงเงินกู้ และเรียกชำระเต็มมูลค่าหุ้นของทุนจดทะเบียน

เอกสาร

กรณีบุคคลธรรมดา

  • บัตรประจำตัวประชาชน / ทะเบียนบ้าน /ทะเบียนสมรส พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส / ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) เป็นต้น

กรณีนิติบุคคล

นอกจากเอกสารตามกรณีบุคคลธรรมดา ให้เพิ่มเติมเอกสาร ดังนี้

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (ไม่เกิน 1 เดือน) / หนังสือบริคณห์สนธิ (บอจ.2) / รายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5)
  • เอกสารของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัท (เอกสารตามกรณีบุคคลธรรมดา)
  • รายงานการประชุม ระบุการขอกู้เงินจากธนาคาร
  • งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี

เอกสารประกอบการยื่นกู้

  • หลักฐานทางการเงิน เช่น บัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน / หลักฐานการชำระภาษี เป็นต้น
  • แผนการดำเนินการทั้งโครงการ / แผนการขาย / แผนการก่อสร้าง / ประมาณการด้านการเงิน Financial Feasibility
  • สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง / หนังสือเสนอราคาค่ารับเหมาก่อสร้าง
  • ใบอนุญาตก่อสร้าง
  • ใบขออนุญาตจัดสรร / ใบยื่นคำขออนุญาตจัดสรร
  • แบบแปลนการก่อสร้างอาคาร (ชุดที่ได้รับอนุญาต)
  • โฉนดที่ดิน พร้อมสารบัญจดทะเบียนทุกหน้า

หมายเหตุ ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการขอเอกสารต่าง ๆ ของผู้กู้เพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบพิจารณาการให้สินเชื่อของธนาคาร

 

 

สถานที่ยื่นคำขอกู้เงิน

  • กรณีหลักประกันตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ติดต่อสาขาในพื้นที่ หรือฝ่ายสนับสนุนสาขานครหลวง สำนักงานใหญ่ 
  • กรณีหลักประกันตั้งอยู่ต่างจังหวัด ติดต่อสาขาภูมิภาค หรือ Center ภูมิภาค สำนักงานใหญ่