โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568

โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 และกำหนดระยะเวลาอนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 มกราคม 2569
(ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว)

วัตถุประสงค์การยื่นกู้

กรณีกู้ใหม่/กู้เพิ่ม

  1. เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
  2. เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
  3. เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด จากสถาบันการเงินอื่น
  4. เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมปลูกสร้างอาคาร
  5. เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้างอาคาร หรือต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
  6. เพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
  7. เพื่อชำระหนี้พร้อมไถ่ถอนจำนอง
  8. เพื่อชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
  9. เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
  10. เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก

หมายเหตุ : นิยามคำว่า “อาคาร” หมายถึง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์เพื่อที่อยู่อาศัย ยกเว้นบ้านเช่าและแฟลต

วงเงิน / ระยะเวลากู้

วงเงิน

  • เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อรายย่อยของธนาคาร

ระยะเวลากู้ 

  • ไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี โดยอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น กรณีข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี

อัตราดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม

อัตราดอกเบี้ย

(1) อัตราดอกเบี้ยเพื่อที่อยู่อาศัยแบบไม่ทำประกัน / ทำประกันไม่เป็นไปตามเงื่อนไข

ปี อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 = 2.50% ต่อปี
ปีที่ 2 = 3.25% ต่อปี
ปีที่ 3 = 3.75% ต่อปี
ปีที่ 4 - ปีที่ 5  = MRR-2.25% ต่อปี
ปีที่ 6  จนถึงตลอดอายุสัญญา = MRR-2.00% ต่อปี
ยกเว้นกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ = MRR 

(2)  อัตราดอกเบี้ยเพื่อที่อยู่อาศัย / ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด 
แบบที่ 1 ทำประกันไม่น้อยกว่า 5% ของวงเงินกู้ภายใต้ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568”

ปี อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 = 1.59% ต่อปี
ปีที่ 2 = 2.99% ต่อปี
ปีที่ 3 = MRR-2.50% ต่อปี
ปีที่ 4 - ปีที่ 5  = MRR-2.25% ต่อปี
ปีที่ 6  จนถึงตลอดอายุสัญญา = MRR-2.00% ต่อปี
ยกเว้นกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ = MRR

แบบที่ 2 วงเงินคุ้มครองสินเชื่อเต็มวงเงินนิติกรรมรวมทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกัน (ไม่นับรวมบัญชี MRTA) และระยะเวลาทำประกันต้องไม่น้อยกว่า 10 ปี แต่บัญชีเงินกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ไม่ถึง 5% ของวงเงินกู้ภายใต้ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568”

ปี อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 = 1.99% ต่อปี
ปีที่ 2 = 3.25% ต่อปี
ปีที่ 3 = MRR-2.74% ต่อปี
ปีที่ 4 - ปีที่ 5  = MRR-2.25% ต่อปี
ปีที่ 6  จนถึงตลอดอายุสัญญา = MRR-2.00% ต่อปี
ยกเว้นกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ = MRR

(3) กรณีขอกู้ซื้ออุปกรณ์ฯ  พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก ที่มีการแบ่งจ่ายเงินกู้เป็นงวดตามผลงานการก่อสร้าง บัญชีซื้ออุปกรณ์ฯ ให้ใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้

ปี อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 จนถึงตลอดอายุสัญญา = MRR

หมายเหตุ
กรณีทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ผู้กู้ต้องทำประกันตามเงื่อนไข ดังนี้

(1) แบบที่ 1 บัญชีเงินกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ต้องไม่น้อยกว่า 5% ของวงเงินกู้ทุกบัญชีภายใต้ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568” (ไม่นับรวมบัญชี MRTA) หรือบัญชีเงินกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ที่ได้รับอนุมัติวงเงินกู้สูงสุดตามเกณฑ์ (โดยค่าเบี้ยจริงต่ำกว่าค่าเบี้ย 5% ของวงเงินกู้ภายใต้ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568” 
ไม่เกิน 1,000 บาท)

(2) แบบที่ 2 วงเงินคุ้มครองสินเชื่อเต็มวงเงินนิติกรรมรวมทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกัน (ไม่นับรวมบัญชี MRTA) และระยะเวลาทำประกันต้องไม่น้อยกว่า 10 ปี แต่บัญชีเงินกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ไม่ถึง 5% ของ    วงเงินกู้ภายใต้ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568”

-  ผู้กู้ต้องเปิดบัญชีเงินกู้เพื่อทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) 
-  กรณีมีผู้กู้ร่วมสามารถทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) คนใดคนหนึ่งได้
-  กรณีที่บริษัทประกันปฏิเสธประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) หรือลูกค้าขอยกเลิกประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) หรือขอเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ในช่วง Free Look Period หรือสิทธิ์ในการขอยกเลิกกรมธรรม์ ไม่สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยกรณีทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ที่ธนาคารกำหนด และให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเป็นอัตราดอกเบี้ยเพื่อที่อยู่อาศัยแบบไม่ทำประกัน / ทำประกันไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ยกเว้น กรณีบริษัทประกันเสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมเนื่องจากสาเหตุใดก็ตามด้วยการลด / เพิ่มทุนประกัน หรือลด / เพิ่ม ระยะเวลาคุ้มครองซึ่งค่าเบี้ยประกันไม่น้อยไปกว่าเดิม ไม่ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (EIR)

อัตราดอกเบี้ยเพื่อที่อยู่อาศัยแบบไม่ทำประกัน / ทำประกันไม่เป็นไปตามเงื่อนไข
-  กรณีลูกค้าสวัสดิการ             =     3.859%
-  กรณีชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ     =     4.866%

กรณีทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
แบบที่ 1 
- กรณีลูกค้าสวัสดิการ             =     3.731%
- กรณีชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ     =     4.749%

แบบที่ 2
- กรณีลูกค้าสวัสดิการ             =     3.780%
- กรณีชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ     =     4.800%

หมายเหตุ :

  1. MRR ตามประกาศธนาคาร
  2. อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (Effective Interest Rate: EIR) 
    อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ระบุเป็นเพียงตัวอย่างที่คำนวณตามเงื่อนไขที่ใช้ในฉบับนี้เท่านั้น ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันตามเงื่อนไขการกู้ยืมของลูกค้าแต่ละราย โดยคำนวณจากสมมติฐานวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 20 ปี ผ่อนชำระตามเงินงวดของผลิตภัณฑ์

ค่าธรรมเนียม

  1. ฟรีค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนอง ในอัตราร้อยละ 0.01 ของวงเงินจำนอง และไม่เกินตามที่จ่ายจริง สำหรับลูกค้าทำนิติกรรมกับธนาคารที่สำนักงานที่ดินแล้วเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 - 30 ธันวาคม 2568
  2. ลูกค้าสำรองจ่ายไปก่อน ธนาคารคืนเมื่อลูกค้าทำนิติกรรมกับธนาคารที่สำนักงานที่ดินแล้วเสร็จ โดยลูกค้าต้องนำหลักฐานใบเสร็จรับเงินมาติดต่อธนาคารภายใน 90 วัน เพื่อยื่นคำร้องขอเงินคืน

 

คุณสมบัติ / เอกสารที่ใช้สมัคร

คุณสมบัติ

  • เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ชื่อเรียกอย่างอื่น และลูกจ้างประจำ ที่เป็นผู้มีสิทธิขอกู้เงินตามคำนิยามในข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากที่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์การมหาชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอิสระอื่นในกำกับของรัฐ หรือจัดตั้งโดยกฎหมายเฉพาะ หรือจัดตั้งตามนโยบายรัฐ ได้ลงนามร่วมกับธนาคาร

เอกสาร

เอกสารส่วนบุคคล

  • บัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ
  • ทะเบียนบ้าน
  • สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า / ใบมรณะบัตร (ถ้ามี)
  • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)

เอกสารทางการเงิน

พนักงานประจำ

  • หนังสือรับรองเงินเดือน
  • สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน

ผู้ประกอบอาชีพอิสระ

-

เอกสารหลักประกัน

  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย / สัญญาวางมัดจำ  /สัญญาเช่าซื้อการเคหะและหนังสือรับรองยอดคงเหลือ (กรณีซื้อ)
  • สำเนาสัญญากู้เงิน และสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงินเดิม (กรณีไถ่ถอนจำนอง)
  • หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร
  • สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน
  • สำเนาโฉนดที่ดิน / น.ส.3ก. / หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ทุกหน้า  
  • ใบอนุญาตปลูกสร้าง / ต่อเติม
  • แบบแปลน
  • ใบประมาณการปลูกสร้าง / สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
  • อื่นๆ (ถ้ามี)

หมายเหตุ **ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการขอเอกสารต่าง ๆ ของผู้กู้เพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบพิจารณาการให้สินเชื่อของธนาคาร**

 

คำถามที่พบบ่อย

1. ลูกค้ากลุ่มใดสามารถขอใช้สินเชื่อนี้ได้บ้าง 
    - ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ชื่อเรียกอย่างอื่น และลูกจ้างประจำ ที่เป็นผู้มีสิทธิขอกู้เงินตามคำนิยามในข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากที่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์การมหาชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอิสระอื่นในกำกับของรัฐ หรือจัดตั้งโดยกฎหมายเฉพาะ หรือจัดตั้งตามนโยบายรัฐ ได้ลงนามร่วมกับธนาคาร

2. สามารถใช้สิทธิโครงการนี้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้หรือไม่
    - กรณีลูกค้าเดิมของธนาคาร ไม่ให้ใช้สิทธิโครงการนี้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ในบัญชีเงินกู้ที่มีอยู่กับธนาคารแล้ว

3. การขอกู้เพื่อไถ่ถอนจำนอง (Refinance) ธนาคารจะพิจารณาประวัติการผ่อนชำระย้อนหลังของสถาบันการเงินเดิมหรือไม่
    - พิจารณา โดยผู้กู้ต้องมีประวัติเป็นลูกหนี้ที่ดีกับสถาบันการเงินเดิมย้อนหลัง 12 เดือน

4. สามารถกู้เพิ่มเพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร ได้หรือไม่
    - ได้

5. หากผู้กู้ร่วมไม่ได้เป็นบุคลากรภาครัฐสามารถขอกู้ร่วมได้หรือไม่
    - ได้ โดยใช้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อโครงการอื่นของธนาคาร