ธอส.ประกาศ 5 มาตรการลดภาระหนี้ ช่วยซับน้ำตาผู้ประสบอุทกภัยปี 2554 พร้อมเดินหน้าสร้าง – ซ่อมแซม ฟื้นฟูสภาพที่อยู่อาศัยหลังน้ำลดระดับ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ออกมาตรการลดภาระหนี้พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูสภาพที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยประกาศ 5 มาตรการ ตามโครงการ "เงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบอุทกภัยปี 2554"

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ในฐานะที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง พร้อมที่จะเป็นกลไกหลักในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าประชาชน จากสถานการณ์พายุฝนกระหน่ำทำให้เกิดน้ำท่วมสูงดินโคลนถล่มในหลายจังหวัดภาคใต้ในปัจจุบัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านที่อยู่อาศัยทั้งทางตรงและทางอ้อม ธนาคารจึงได้ออก 5 มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรวมถึงมาตรการฟื้นฟูภายหลังน้ำลดระดับลง โดยธนาคารจะพิจารณาตามระดับความเสียหายดังนี้ 

มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าของธนาคาร กรณีหลักประกันได้รับความเสียหาย ธนาคารจะยกเว้นการผ่อนชำระเงินงวดค่าบ้านเป็นระยะเวลา 4 เดือน และลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่ 1 - 4 = 0% ต่อปี หลังจากนั้นมีอัตราดอกเบี้ยให้เลือก 2 แบบ คือ แบบที่ 1 เดือนที่ 5 - 24 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี เดือนที่ 25 - 36 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี หลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร แบบที่ 2 เดือนที่ 5-16 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 1% ต่อปี หลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร 

มาตรการที่ 2 กรณีลูกค้าได้รับผลกระทบด้านรายได้ จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 1.00% ต่อปี เป็นระยะเวลา 1 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศของธนาคาร 

มาตรการที่ 3 กรณีลูกค้าได้รับอุบัติเหตุจากเหตุการณ์น้ำท่วมจนทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือเสียชีวิต
ธนาคารจะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลากู้ที่เหลืออยู่ 

มาตรการที่ 4 กรณีที่อาคารที่อยู่อาศัยพังเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จะได้รับการปลดภาระหนี้ตามยอดหนี้คงเหลือในส่วนของอาคาร โดยผู้กู้ผ่อนชำระหนี้ในส่วนของที่ดินที่คงเหลือ 

มาตรการที่ 5 สำหรับลูกค้าเดิมของ ธอส. และลูกค้าใหม่ ที่อาคารได้รับความเสียหายสามารถขอกู้เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิม และซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.00 % ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศของธนาคาร ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.75 %ต่อปี วงเงินให้กู้สูงสุด 100 % ของราคาประเมิน ค่าก่อสร้างหรือซ่อมแซมอาคาร 

โดยสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ทั้งนี้จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ทุกวงเงินกู้ และค่าธรรมเนียม ค่าเบี้ยปรับในรายการที่เกี่ยวข้องทุกกรณี ลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์.โทร 0-2645-9000
หรือ www.ghbank.co.th

"นอกจากมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแล้ว ธนาคารยังบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านกระทรวงการคลัง จำนวน 1,000,000 บาท รวมถึงมอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนชาวใต้ พร้อมเดินหน้าสร้างและซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลดระดับ โดยจะเชิญชวนอาสาสมัครร่วมสร้างและ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ให้กับผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ทั้งนี้ธนาคารขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมให้กำลังใจ และบริจาคเงินเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุกทกภัยภาคใต้ ผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ชื่อบัญชี "ธอส.รวมใจช่วยผู้ประสบภัย"
เลขที่ 001-11-081460-1" นายวรวิทย์ฯ กล่าว

ฝ่ายสื่อสารองค์กร
5 เมษายน 2554