84 พรรษา 84 ถังน้ำใจ ถวายในหลวง โอเอซิสสู่พื้นที่ภัยแล้ง

ย่างเข้าสู่ฤดูร้อนมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ผ่านมาถึงเดือนเมษายน เรียกว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด และนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะบางวันอุณหภูมิพุ่งปรี๊ดแทบทะลุ 40 องศา สำหรับคนเมืองแล้วอาจหาสารพัดวิธีคลายร้อนได้ไม่ยากนัก แต่คนในพื้นที่อีสาน ท้องถิ่นห่างไกล ฤดูร้อนกลับทำให้รู้สึกย่ำแย่ เพราะนั่นหมายถึงว่า จะต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ท่ามกลางสถานการณ์ภัยแล้ง หรือภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นซ้ำซาก เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแนวพระราชดำริต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดการน้ำที่เกิดจากสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานให้กับคนไทย ไม่ว่าจะเป็น โครงการแก้มลิง โครงการฝนหลวง โครงการวางระบบชลประทานเพื่อจัดหาน้ำและนำไปใช้ตามพื้นที่เกษตรกรรม การคิดค้นเครื่องกลบำบัดน้ำเสีย เช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา การปลูกป่าด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อรักษาป่าต้นน้ำและป้องกันน้ำท่วม ตลอดจนโครงการพัฒนาเขื่อนในพื้นที่ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่สร้างประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลแก่พสกนิกรไทยมาช้านาน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงปัญหาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรและการบริโภคอุปโภคว่าเป็นปัญหาที่รุนแรงและสำคัญที่สุด จึงทรงใฝ่พระราชหฤทัยเกี่ยวกับการจัดการพัฒนาแหล่งน้ำมากกว่าโครงการพระราชดำริอื่น ๆ เหมือนที่มีพระราชดำริว่า “น้ำคือชีวิต” ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานไว้ ณ สวนจิตรลดา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2529 ความตอนหนึ่งว่า “...หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้...”

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่นำความผาสุกมาสู่พสกนิกรไทยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จึงได้น้อมนำแนวพระราชดำริที่ได้ทรงดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรน้ำมาจัดทำโครงการ “84 พรรษา 84 ถังน้ำใจ ถวายในหลวง” โดยการมอบแท็งก์น้ำ จำนวน 84 แท็งก์ แก่จังหวัดที่ประสบภัยแล้งทั่วประเทศไทย บรรเทาปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำบริโภค เพื่อให้เป็นแหล่งน้ำประจำชุมชนต่อไป ซึ่งโครงการนี้ได้ต่อยอดมาจากโครงการเดิมที่ได้ริเริ่มในปี 2553 คือ “เติมน้ำใจให้เต็มกับ ธอส.”

วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ธนาคารฯ ตระหนักถึงปัญหาภัยแล้งที่กำลังลุกลามเป็นวงกว้าง จึงพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จึงจัดสร้างแท็งก์น้ำคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรงทนทาน สูง 8 เมตร บรรจุน้ำได้ 36,000 ลิตรเพื่อมอบให้กับพื้นที่ประสบภัยแล้งใน 40 จังหวัด 84 ชุมชน จำนวน 84 แท็งก์ ภายใต้ โครงการ 84 พรรษา 84 ถังน้ำใจ ถวายในหลวง พร้อมกันนี้ได้จัดพิมพ์พระบรมสาทิสลักษณ์ไว้ด้านบนของแท็งก์น้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษาอีกด้วย

“เราส่งมอบแท็งก์น้ำแรกให้ โรงเรียนนเรศวรห้วยผึ้ง อ.ห้วยสัตว์ใหญ่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง รวมถึงชุมชนในละแวกใกล้เคียง เนื่องจากขาดน้ำดื่มที่สะอาดตลอดจนแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภค แท็งก์น้ำที่นำไปมอบให้ ไม่เพียงจะยังประโยชน์ให้กับครู นักเรียนในโรงเรียนเท่านั้น ยังรวมไปถึงชาวบ้านชุมชนในท้องถิ่นที่จะได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของด้วยเช่นกัน เสมือนคืนความชุ่มฉ่ำหรือสร้างโอเอซิสให้ท่ามกลางภัยแล้งที่รายล้อมอยู่รอบตัว ถัดมาได้ส่งมอบให้กับวัดหนองตาแมน ต.ถนนโพธิ์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่กำลังเดือดร้อนจากวิกฤติขาดแคลนน้ำอย่างหนัก เพื่อชาวบ้านจะได้มีน้ำเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น ตลอดจนมีน้ำดื่มสะอาด มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเตรียมแผนเดินทางไปมอบแท็งก์น้ำในจังหวัดที่ประสบภัยแล้งทั่วทุกภูมิภาคในพื้นที่ 40 จังหวัด 84 ชุมชน เพื่อจะดำเนินการมอบแท็งก์น้ำให้ครบจำนวน 84 แท็งก์ตามเป้าหมาย”

สำหรับเสียงสะท้อนสำหรับการจัดโครงการฯ ในครั้งแรก จากตัวแทนเด็ก ๆ เล่าว่า ดีใจมากที่จะมีแท็งก์น้ำใหญ่ในโรงเรียน เพราะจะได้มีน้ำดื่มที่สะอาด โดยจะช่วยกันดูแลแท็งก์น้ำ และใช้น้ำอย่างรู้คุณค่ามากที่สุด สำหรับน้ำใช้ในโรงเรียนปกติได้จากการสูบขึ้นมาจากลำห้วย แล้วพักไว้ในถังจึงค่อยนำมาใช้อาบ รดน้ำต้นไม้ ล้างถ้วยชาม หรือทำความสะอาด สำหรับตนจะใช้ทำความสะอาดคอกไก่ที่รับผิดชอบในโครงการพระราชดำริ

น้องเบิร์ด-ด.ช.วันชัย ลิ้มตระกูล ชั้น ป.6 กล่าวเสริมว่า การมีแท็งก์น้ำทำให้ไม่ต้องสูบน้ำขึ้นมาบ่อย ๆ ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น เพราะมีหลายครั้งที่เครื่องสูบน้ำและกรองน้ำทำงานติดขัด หรือไฟดับบ้าง ทำให้ไม่ได้ดื่มน้ำ เมื่อมีแท็งก์น้ำจะได้มีน้ำดื่มตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะน้ำในแท็งก์ย่อมสะอาดกว่าในลำห้วยแน่นอน ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่เข้ามาช่วยเหลือปัญหาการขาดแคลนน้ำให้พวกเราและชาวบ้าน

ลำยวง ยับสันเทียะ ผู้ใหญ่บ้านอำเภอถนนโพธิ์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ตัวแทนชาวบ้านที่รับมอบแท็งก์น้ำจากโครงการ ครั้งที่ 2 กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนในตำบลถนนโพธิ์มี 1,562 ครัวเรือน หรือประมาณ 4,253 คน ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรฐานะยากจน นอกจากจะประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องดินเค็มอีกด้วย ทำให้ต้องเลือกปลูกพืชที่เหมาะสม และน้ำดื่มจะอาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติ สำหรับปัญหาขาดแคลนน้ำบางครั้งเกิดติดต่อกันยาวนานเพราะฝนทิ้งช่วง ทำให้ขาดแหล่งเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง จึงเป็นปัญหาสำคัญของชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารแถบนี้ เมื่อ ธอส.เข้ามามอบแท็งก์น้ำในชุมชนชนบทที่ห่างไกล ทำให้ชาวบ้านรู้สึกตื้นตันใจและดีใจมาก เพราะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำได้อย่างตรงจุด อยากให้โครงการได้เข้าถึงชุมชนที่เดือดร้อนเรื่องการขาดแคลนน้ำอย่างทั่วถึง เพราะแท็งก์น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพื้นที่เหล่านี้มากที่สุด

กล่าวได้ว่า โครงการดี ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นได้ ก็เพราะการได้เห็นแบบอย่างที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่นบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร ในแนวทางการบริหารจัดการน้ำเสมอมา ทุกโครงการพระราชดำริ ได้ผ่านการศึกษาอย่างละเอียดลึกซึ้งและวางแผนอย่างรัดกุมทุกขั้นตอน จึงเป็นเสมือนแรงบันดาลใจให้องค์กรต่าง ๆ ดำเนินตามรอยพระองค์ท่าน ปูทางไปสู่การก่อเกิดโครงการสำคัญ ๆ เพื่อสนองแนวพระราชดำริ ในอันจะได้มีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาของชุมชน ให้เกิดความเข้มแข็งและมั่นคงต่อไป และที่สำคัญคือเกิดประโยชน์นานัปการต่อประเทศชาติ เหมือนดังที่พระองค์ท่านได้ทรงทำเพื่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด.