ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมกับ เทศบาลตำบลอัมพวา จัดพิธีส่งมอบโครงการปรับภูมิทัศน์ ตลาดน้ำอัมพวา ระยะที่ 2- 3 สร้างภาพลักษณ์เมืองน่ามอง ดึงดูดนักท่องเที่ยว

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมกับ เทศบาลตำบลอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จัดทำโครงการปรับภูมิทัศน์ตลาดน้ำอัมพวา ระยะที่ 2-3 เพื่อเป็นโครงการต้นแบบและยกระดับสถานที่ท่องเที่ยวไทยให้มีภาพลักษณ์ที่สวย งาม เป็นระเบียบ ตามมาตรฐานสากล ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมสนับสนุนการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ขนมไทยอัมพวาเฉลิมพระเกียรติ และสนับสนุนจัดสร้างอาคารอเนกประสงค์และสนามเด็กเล่น ให้แก่ ร.ร.วัดบางนางลี่ใหญ่ ในโครงการยกระดับมาตรฐานการศึกษา ของ สพฐ –สคร. อีกด้วย

(17 กันยายน 2553 – ตลาดน้ำ อัมพวา) นายวิชัย หิรัญ วงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ CG&CSR ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ให้พร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ธนาคารจึงได้ร่วมมือกับเทศบาลตำบลอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จัดทำโครงการ “ปรับปรุงภูมิทัศน์ตลาดน้ำอัมพวา ระยะที่ 2-3” โดยธนาคารให้การสนับสนุนงบประมาณในการขยายพื้นที่ปรับปรุงภูมิทัศน์ของตลาด น้ำยามเย็นอัมพวา ระยะที่ 2-3 และพื้นที่โดยรอบตลาดน้ำอัมพวา ต่อจากเดิมที่ธนาคารให้การสนับสนุน เพื่อยกระดับสถานที่ท่องเที่ยวให้มีความสวยงามและได้รับมาตรฐานในระดับสากล โดยได้จัดพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการขึ้นในวันนี้

ธนาคารยังได้ให้การสนับสนุนการจัดทำ พิพิธภัณฑ์ขนมไทยอัมพวาเฉลิมพระเกียรติ บริเวณชั้น 2 อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลตำบลอัมพวา โดยได้รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับขนมไทยและผลิตภัณฑ์ขนมไทยในชุมชนท้องถิ่น เพื่อการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม ตลอดจนเชื่อมโยงให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมให้ชาวไทยและชาวต่าง ประเทศได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านขนมไทย เพื่อเผยแพร่และสิบสานมรดกทางวัฒนธรรมในด้านนี้ให้อยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไป อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพทุนที่มีอยู่ในชุมชน เพื่อการดำเนินชีวิตโดยการพึ่งพาตนเอง ดังปรัชญาการดำเนินงานภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงให้บรรลุผล สู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง เพื่อถวายเป็นพระราชสักการะแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

นอกจากนี้ ธนาคารได้พิจารณาคัดเลือก โรงเรียนวัดบางนางลี่ใหญ่ (บริษัทเกลือไทยสงเคราะห์) ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นโรงเรียนในโครงการยกระดับมาตรฐานการศึกษาของเยาวชนไทย ของ สคร.–สพฐ. ประจำปี 2553 โดยให้การสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนเพื่อการเรียนรู้อาคารกีฬาและ นันทนาการในร่ม สนามเด็กเล่น จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับการจัดแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น และชาติไทยตามอัตลักษณ์ท้องถิ่น อุปกรณ์เครื่องดนตรีไทยและสากล รวมถึงอุปกรณ์การศึกษาอื่นๆ อีกด้วย และยังมอบจักรยานจำนวน 30 คัน ในโครงการ “จักรยานยืมเรียน ในถิ่นทุรกันดาร” ให้กับนักเรียนในถิ่นทุรกันดารซึ่งห่างไกลความเจริญได้ใช้จักรยานในการเดิน ทางไปกลับระหว่างที่พักกับโรงเรียน เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้เยาวชนในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสใน การศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นการส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป

“ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะองค์กรรัฐวิสาหกิจที่ให้บริการด้านการเงินเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อให้ ประชาชนชาวไทยได้มีที่อยู่อาศัยตามสมควรแก่อัตภาพนั้น อีกหนึ่งนโยบายที่ธนาคารให้ความสำคัญในการดำเนินกิจการ ควบคู่เสมอมา คือการสนับสนุนและพัฒนาสังคมในด้านต่าง ๆ ทั้งการส่งเสริมด้านสังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษาและกีฬา ซึ่งการดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์ตลาดน้ำอัมพวาในครั้งนี้ จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สถานที่ท่องเที่ยวของไทย ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างแพร่หลาย ทั้งในด้านวิถีชีวิตของวัฒนธรรมไทย สถาปัตยกรรม สินค้าและบริการต่าง ๆ โดยมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉาะตัว ซึ่งแนวทางดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ องค์กร หรือ Corporate Social Responsibility (CSR) ในด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการศึกษา” นายวิชัย กล่าว

นายประภาศ บุญยินดี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่าการจัดทำโครงการปรับภูมิทัศน์ตลาดน้ำอัมพวา ระยะที่ 2-3 ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นกิจกรรมเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวไทย ตามนโยบาย “เศรษฐกิจไทยครึกครื้น ประเทศไทยคึกคัก” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้ว และเชื่อมั่นได้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามา เที่ยวตลาดน้ำอัมพวากันอย่างคึกคักให้สมกับรางวัล World Heritage Award ที่ได้รับจาก UNESCO ซึ่งจะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาเที่ยวชมมากยิ่งขึ้น