สินเชื่อโครงการส่งเสริมธุรกิจตลาดบ้านมือสอง ปี 2568

สินเชื่อโครงการส่งเสริมธุรกิจตลาดบ้านมือสอง ปี 2568

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรม ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 
(ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว)

วัตถุประสงค์การยื่นกู้

  • เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ที่เป็นทรัพย์ NPLของธนาคารที่กรมบังคับคดี
  • เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ที่เป็นทรัพย์ NPA ของธนาคาร
    ยกเว้น การกู้ซื้อที่ดินเปล่า และซื้อที่ดินพร้อมแฟลตให้เช่า

วงเงิน / ระยะเวลากู้

วงเงิน

  • สูงสุดต่อหลักประกันไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาประเมินหลักประกัน และไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาซื้อขาย แล้วแต่ราคาใดต่ำกว่า

ระยะเวลากู้

  • ไม่เกิน 3 ปี

หมายเหตุ : กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

อัตราดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม

อัตราดอกเบี้ย

ปี อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 = คงที่ 3.50% ต่อปี
ปีที่ 2 = คงที่ 4.00% ต่อปี
ปีที่ 3 = คงที่ 4.50% ต่อปี

อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (EIR)    = 4.00% ต่อปี

หมายเหตุ :

  • อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (Effective Interest Rate: EIR) 
    อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ระบุเป็นเพียงตัวอย่างที่คำนวณตามเงื่อนไขที่ใช้ในฉบับนี้เท่านั้น ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันตามเงื่อนไขการกู้ยืมของลูกค้าแต่ละราย โดยคำนวณจากสมมติฐานวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 3 ปี ผ่อนชำระตามเงินงวดของผลิตภัณฑ์

ค่าธรรมเนียม

คุณสมบัติ / เอกสารที่ใช้สมัคร

คุณสมบัติ

  • กรณีผู้ขอสินเชื่อเป็นบุคคลธรรมดา อายุรวมกับระยะเวลากู้ต้องไม่เกิน 70 ปี
  • กรณีนิติบุคคล ทุนจดทะเบียนต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละ 10 ของวงเงินกู้ และเรียกชำระเต็มมูลค่าหุ้นของทุนจดทะเบียน ทั้งนี้ พิจารณาจากงบการเงินย้อนหลัง 3 ปี จะต้องไม่ขาดทุนต่อเนื่องจนส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ
  • ให้กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ในนามส่วนตัว โดยให้มีความรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกับบริษัททุกบัญชี
  • ผู้ประกอบการหรือผู้บริหาร ต้องมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจด้านการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์
  • ให้แสดงเงินทุนสมทบไม่น้อยกว่า 30% ของวงเงินกู้ โดยธนาคารสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินสมทบได้อย่างชัดเจน

เอกสารประกอบการยื่นกู้

กรณีบุคคลธรรมดา

  • เอกสารส่วนตัว เช่น ทะเบียนบ้าน / บัตรประจำตัวประชาชน / ทะเบียนสมรส พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส /ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) เป็นต้น
  • หลักฐานทางการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน, หนังสือรับรองเงินเดือน, หลักฐานการชำระภาษี, บัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน เป็นต้น
  • ประวัติรายการซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์
  • สำเนาโฉนดที่ดิน / หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) พร้อมสารบัญจดทะเบียนทุกหน้า (ถ่ายสำเนาขนาดเท่าต้นฉบับ)
  • สำเนาหนังสือซื้อขายกรมบังคับคดี (กรณีทรัพย์ NPL)
  • สำเนาประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี (กรณีทรัพย์ NPL)
  • สำเนาสัญญาซื้อขายทรัพย์ NPA ธนาคาร

กรณีนิติบุคคล

นอกจากเอกสารตามกรณีบุคคลธรรมดา ให้เพิ่มเติมเอกสาร ดังนี้

  • รายงานการประชุม ระบุวัตถุประสงค์การขอกู้ / วงเงินขอกู้ กับธอส.
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (ไม่เกิน 1 เดือน) / หนังสือบริคณห์สนธิ (บอจ.2) / รายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5)
  • ทุนจดทะเบียนต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของวงเงินกู้ และเรียกชำระเต็มมูลค่าหุ้นของทุนจดทะเบียน
  • บัตรประชาชนผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 20%
  • งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี
  • ข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
  • เอกสารรายได้ ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม / ผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 20%

หมายเหตุ 

  • หลังจากที่ผู้กู้ประมูลซื้อทรัพย์และขอสินเชื่อกับธนาคารแล้ว ดำเนินการดังนี้
  • ต้องปรับปรุงซ่อมแซมอาคารให้อยู่ในสภาพดี พร้อมส่งรูปถ่าย และรายงานผลการปรับปรุงซ่อมแซมทรัพย์แต่ละรายการให้ธนาคารทราบภายใน 6 เดือน นับแต่ทำสัญญากู้กับธนาคาร
  • ต้องหาผู้ซื้อรายย่อยมารับโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 2 ปี นับแต่ทำสัญญากู้กับธนาคาร หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หรือทรัพย์รายการใดไม่ได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดี ธนาคารสงวนสิทธิ์ที่จะไม่พิจารณาให้สินเชื่อ
  • กรณีมีการผิดนัดบัญชีใดบัญชีหนึ่งธนาคารสงวนสิทธิ์ชะลอการให้สินเชื่อเพื่อซื้อทรัพย์รายใหม่ที่ผู้กู้ประมูลได้ จนกว่าผู้กู้จะมาชำระหนี้ค้างให้เป็นปกติทุกบัญชี
  • กรณีลูกหนี้รายย่อยในโครงการที่ซื้อทรัพย์ต่อจากผู้ประกอบการมีหนี้ค้าง และเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกินรายได้ (NPL) สูงเกิน NPL ถัวเฉลี่ยของธนาคาร จะมีการควบคุมการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ

 

 

การชำระ / ค่างวด

  • การกำหนดเงินงวดซื้อทรัพย์ NPL ของธนาคารที่กรมบังคับคดี และซื้อทรัพย์ NPA ของธนาคาร ให้ผ่อนชำระเงินงวดลดเงินต้นปีละ 10% เฉลี่ยเป็นรายเดือน พร้อมกับดอกเบี้ยประจำเดือน และชำระส่วนที่คงเหลือในงวดสุดท้ายทั้งจำนวน
     

สถานที่ยื่นคำขอกู้เงิน

  • กรณีหลักประกันตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ติดต่อสาขาในพื้นที่ หรือฝ่ายสนับสนุนสาขานครหลวง สำนักงานใหญ่ 
  • กรณีหลักประกันตั้งอยู่ต่างจังหวัด ติดต่อสาขาภูมิภาค หรือ Center ภูมิภาค สำนักงานใหญ่

คำถามที่พบบ่อย

1. ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ สินเชื่อโครงการส่งเสริมธุรกิจตลาดบ้านมือสอง    
- ค่าธรรมเนียมยื่นกู้ บัญชีละ 1,500 บาท

2. วงเงินกู้สูงสุดของ สินเชื่อโครงการส่งเสริมธุรกิจตลาดบ้านมือสอง    
- กู้ได้สูงสุดต่อหลักประกัน ไม่เกิน 90%  ของราคาประเมินหลักประกัน และไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขาย แล้วแต่ราคาใดต่ำกว่า

3. ระยะเวลากู้สูงสุดของ สินเชื่อโครงการส่งเสริมธุรกิจตลาดบ้านมือสอง    
- กู้ได้สูงสุด 3 ปี

4. หลักประกันตั้งอยู่ในต่างจังหวัด ยื่นกู้ที่ใด    
- ติดต่อสาขาภูมิภาค หรือสำนักงานใหญ่ งานสินเชื่อ Center ภูมิภาค อาคาร 2 ชั้น 2

5. สินเชื่อโครงการส่งเสริมธุรกิจตลาดบ้านมือสองผู้ขอกู้มีคุณสมบัติอย่างไร         
- สินเชื่อสำหรับผู้ขอกู้ที่เป็นบุคคล หรือเป็นนิติบุคคล ที่ประสงค์ยื่นกู้เงินเพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดที่เป็นทรัพย์ NPL ของ ธอส.ที่กรมบังคับคดี , ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด ที่เป็นทรัพย์ NPA ของ ธอส.(ยกเว้น การกู้ที่ดินเปล่า และที่ดินพร้อมแฟลตให้เช่า) 
- มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาริมทรัพย์ 
- ในการยื่นกู้ครั้งแรก จะต้องยื่นกู้ซื้อหลักประกัน จำนวนตั้งแต่ 3 หลัง/ห้องขึ้นไป โดยนำไปปรับปรุงซ่อมแซม เพื่อจำหน่ายให้ผู้ซื้อรายย่อย 
  (ที่ดินพร้อมอาคาร หมายถึง บ้านเดี่ยว / ทาวน์เฮ้าส์ / บ้านแฝด / อาคารพาณิชย์ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย)